วิธีการทำน้ำปลาร้าต้มสุก

160

ปลาร้า ถือว่าเป็นจิตวิญญาณของอาหารอีสาน ที่หลายๆ เมนูก็จะมีส่วนผสมของปลาร้าเข้ามาเป็นส่วนประกอบหลัก ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงที่สำคัญ โดยที่ปลาร้าจะมีกลิ่น และรสชาติเฉพาะตัวที่ถ้าหากใครที่ไม่ชอบก็จะเหม็นไปเลย แต่สำหรับคนที่ชอบเพียงแค่ได้กลิ่นน้ำปลาร้าลอยมาต่อมน้ำลายจะต้องแตกอย่างแน่นอน เพราะกลิ่น และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง มีให้เลือกรับประทานหลายรูปแบบ แต่กว่าจะมาเป็นน้ำปลาร้าให้เราได้รับประทานกันก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะจุดเริ่มต้นในการทำปลาร้าเกิดมาจากการที่ประเทศไทยของเรามีปลาเล็ก ปลาใหญ่เป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดไอเดียในการหมักดองเอาไว้ทานในฤดูหนาว หรือช่วงเวลาที่หาวัตถุดิบมาทำอาหารที่ยาก

โดยส่วนใหญ่การทำปลาร้าจะนิยมนำปลาน้ำจืดมาทำความสะอาด ขอดเกล็ด ตัดหัว ควักใส้ และล้างให้หมดกลิ่นคาว จากนั้นนำมาหมักกับเกลือ จนความเค็มซึมซับเข้าไปในเนื้อปลา โดยที่ปลาจะมีเนื้อที่แน่นขึ้น และที่สำคัญเกลือจะทำให้เนื้อปลาไม่เน่าเสีย สามารถเก็บไว้รับประทานได้ในช่วงเวลาที่ยาวนาน โดยที่จะขึ้นอยู่กับปลาที่นำมาใช้ทำ ซึ่งก็มีปลาหลายประเภทไม่ว่าจะเป็น ปลาซิว ปลาสร้อยขาว ปลากระดี่ หรือแม้แต่ปลาขนาดใหญ่อย่าง ปลานิล ปลาแขยง และปลาหมอ เป็นต้น

วิธีการทำน้ำปลาร้าต้มสุก

ปลาร้าต้มสุก เป็นหนึ่งในทางเลือกการรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการซื้อน้ำปลาร้าสำเร็จรูป หรือหมักปลาร้าเอง การนำเอามาต้มสุกก่อนประกอบอาหารในเมนูต่างๆ ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดี ที่นอกจากจะได้สุขอนามัยแล้ว การต้มสุกยังไม่ทำให้รสชาติ และกลิ่นหายไปด้วย โดยที่วิธีการทำปราร้าต้มสุกเอาไว้ประกอบอาหารก็มีวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้

  • น้ำปลาร้าที่เตรียมไว้มาใส่ในหม้อ ตามด้วยสับปะรด ใบกระถิน ใบหม่อน ใบน้อยหน่า น้ำตาลปี๊บ กะปิ กระเทียมดอง น้ำกระเทียมดอง และเติมน้ำลงไป ก่อนที่จะนำส่วนผสมทั้งหมดมาเคี่ยวไฟประมาณ 1 ชั่วโมง (ส่วนผสมจะแตกต่างกันในตามแต่ละสูตรที่ทำ)
  • กรองกระตะแกรง หรือผ้าขาว เพื่อที่จะคัดเอาแต่น้ำปลาร้า ก่อนที่จะนำไปต้มให้เดือดอีกครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้น สามารถพักให้เย็นแล้วใส่ภาชนะเพื่อเก็บไว้ประกอบอาหารได้ทันที

ปัจจุบันเรามักจะเห็นได้ว่ามีปลาร้าสำเร็จรูปที่มีให้เลือกซื้อมากมาย แต่ละยี่ห้อก็จะมีสูตรการทำที่แตกต่างกันออกไป ที่ไม่เพียงแค่นั้น เพราะมีให้เลือกซื้อทั้งปลาร้าธรรมดา และปลาร้าต้มสุก ที่เรียกได้ว่าพร้อมรับประทานสุดๆ โดยที่ขั้นตอนการทำน้ำปลาร้าต้มสุกที่นำมาฝากให้ดูกันในวันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น เพราะเพียงแค่ติดตามหน้าเว็บไซต์ให้ดีๆ ก็จะมีบทความดีๆ เหล่านี้มาแนะนำให้ได้ดูกันเป็นประจำอย่างแน่นอน

Previous articleเซรั่มบำรุงผิว ควรใช้ตอนไหนดีที่สุด
Next articleอยากทำประกันมะเร็งแบบรายปี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?